คิม จอง อิล

คิม จอง อิล




นายคิม จองอิล ผู้นำ วัย 69 ปี ของ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) ได้เสียชีวิตแล้ว ขณะเดินทางด้วยรถไฟจากเมืองเปียงยาง สาเหตุของการเสียชีวิตเพราะหัวใจล้มเหลวเนื่องจากการทำงานหนัก หลังทำงานเป็นประธานาธิบดีมานานกว่า 17 ปี

โดย เมื่อปี 2010 คิม จอง อิล ได้เปิดตัว คิม จอง อุน ลูกชายคนที่ 3 เพื่อสืบทอดตำแหน่งผู้นำเกาหลีเหนือคนต่อไป

ทั้งนี้ นายคิม จอง อิล นั้นต่อสู้กับโรคภาวะเส้นเลือดอุดตันในสมองมาตั้งแต่ปี 2008 นอกจากนี้ยังเป็นโรคหัวใจและเบาหวาน

อย่างไรก็ตาม คิม จองอิลได้ชื่อว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดของเกาหลีเหนือ ที่สามารถสร้างความปั่นป่วนให้เกาหลีใต้ได้พอสมควร

เป็นผู้นำสูงสุดของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) เขาเป็นเลขาธิการใหญ่พรรคกรรมกรเกาหลี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลตั้งแต่ ค.ศ. 1948, ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันประเทศแห่งเกาหลีเหนือ และผู้บัญชาการกองทัพประชาชนเกาหลีสูงสุด ซึ่งเป็นกองทัพขนาดใหญ่ที่สุดอันดับสี่ของโลก

ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2009 มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกาหลีเหนือโดยเรียกเขาว่าเป็น "ผู้นำสูงสุด" บางครั้งเขายังถูกเรียกว่า "บิดาที่รัก", "บิดาของเรา" ,"นายพล" และ "จอมทัพ"

บุตรชาย คิม จองอึนได้รับเลื่อนเป็นตำแหน่งระดับสูงในพรรคกรรมกรและถูกวางตัวเป็นทายาท ใน ค.ศ. 2010 เขาถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 31 ของบุคคลทรงอำนาจที่สุดของโลก


นายคิม จอง-อิล ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้ถูกอธิบายว่าเป็น " ผู้นำสูงสุด " ของเกาหลีเหนือ ตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่เสริมอำนาจของเขาให้แข็งแกร่งขึ้น ท่ามกลางการคาดการณ์เกี่ยวกับสุขภาพ และผู้ที่จะมาสืบทอดอำนาจต่อจากเขา จากการที่มีรายงานก่อนหน้านี้ เขาป่วยด้วยอาการเส้นเลือดไปเลี้ยงสมองตีบ เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2551

จากสำเนาเอกสารที่เปิดเผยโดยกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ ระบุว่า นายคิมวัย 67 ปี ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ทรงอิทธิพลสูงสุดของประเทศมายาวนาน แต่เป็นครั้งแรกที่ในรัฐธรรมนูญ ได้ระบุเงื่อนไขเกี่ยวกับสถานภาพของเขาเอาไว้อย่างชัดเจน โดยในมาตรา 100 บัญญัติว่าประธาคณะกรรมาธิการทหารแห่งชาติ หรือ NDC คือ ผู้นำสูงสุดของชาติ ซึ่งนายคิมได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธาน NDC อีกสมัยหนึ่ง ทำให้เขามีอำนาจในการควบคุมกองทัพที่มีกำลังพล 1 ล้าน 2 แสนนาย ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตอนที่สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ในระหว่างการประชุม เมื่อเดือนเมษายน และนับเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งแรกในรอบ 11 ปี
อำนาจของนายคิม คือการควบคุมกิจการของรัฐทุกชนิด , แต่งตั้งและปลดนายทหาร และรับรองหรือยกเลิกสนธิสัญญาที่สำคัญ ๆ กับชาติอื่นด้วย

เชือง เซือง-ชาง นักวิเคราะห์จากสถาบันคลังสมองอิสระ เซชอง ให้ความเห็นว่า นโยบายชวนวิวาทของเกาหลีเหนือ ที่รวมถึงการทดสอบยิงขีปนาวุธและการทดสอบนิวเคลียร์ เป็นความพยายามของนายคิม ที่จะประเมินอำนาจของตนเอง ในขณะที่เตรียมแผนการส่งมอบอำนาจให้กับบุตรชายคนเล็ก

นายคิม ได้ยอมให้บุตรชายคนเล็ก เข้าไปมีส่วนร่วมในอำนาจและควบคุมพรรคกรรมกรแห่งเกาหลี ที่ปกครองเกาหลีเหนือ และเป็นครั้งแรกที่รัฐธรรมนูญใหม่เลิกใช้คำว่า ลัทธิคอมมิวนิสต์ และหันไปใช้คำว่า " นโนบายซงกอน " หรือ กองทัพมาก่อน ของคิม จอง-อิล และ" อุดมการณ์ชูเช " ที่อาศัยหลักปรัชญาการพึ่งพาตนเอง ของประธานาธิบดีคิม อิล ซุง บิดาของเขา และเป็นผู้ก่อตั้งประเทศเกาหลีเหนือ


รัฐบาลเกาหลีเหนือประกาศการถึงแก่อสัญกรรมของเขาเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 2011

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น